วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match ดอร์ทมุนด์ 2-1 เบรเมน


"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประเดิมเก็บสามแต้มได้สำเร็จหลังเปิดบ้านเฉือนเอาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน ไปได้หวุดหวิด 2-1 นัดเปิดฤดูกาล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา

ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน นัดแรกวันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2555โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2 - 1 แวร์เดอร์ เบรเมน

สนาม : ซิกนัล อิดูน่า สตาดิโอน ผู้ชม : 80,645 คน

        เกมเปิดสนามบุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาล 2012-2013 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ประเดิมด้วยเจ้าของดับเบิ้ลแชมป์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "นกนางนวล" แวร์เดอร์ เบรเมน ท่ามกลางแฟนบอลจำนวนมากถึง 80,645 คน

        เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์เสือเหลืองส่ง ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, มาร์โค รอยส์ นำทัพ ส่วน โธมัส ชาฟ กุนซือเบรเมนส่งนักเตะหน้าใหม่ลงสนามทั้ง โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, เอลเยโร่ เอเลีย, เควิน เดอ บรุนน์ และ ธีโอดอร์ กาเบร้ เซลาสซี่

        ก่อน เกมเริ่มต้นมีพิธีการวันเปิดสนามบุนเดสลีกา โดยครึ่งแรก นาที 11 ดอร์ทมุนด์นำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ ผ่านบอลแม่นยำให้ มาร์โค รอยส์ เลี้ยงบอลหลบกองหลัง และยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าประตู

        นาที 17 เบรเมน มีลุ้น อารอน ฮันท์ เปิดบอลเร็วจากลูกโต้กลับเร็ว เอลเยโร่ เอเลียซัดเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย

        สิบนาทีต่อมา ฮันท์ ได้บอล จ่ายให้ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ซัดเท้าขวาหน้าประตู บอลไปตรงตัว โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ นายทวาร

        จากนั้นนาที 31 มาร์โค รอยส์ มิดฟิลด์ดอร์ทมุนด์ สังหารฟรีคิก จากนอกกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลเหินข้ามคานไม่กี่หลา

        และ นาที 44 เป็นโอกาสของเสือเหลือง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ทำทางให้ ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ ยิงเท้าขวาระยะไกล ข้ามคาน จบครึ่งแรก ดอร์ทมุนด์นำ 1-0

        เข้า สู่ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่เปลี่ยนผู้เล่นสำรอง นาที 50 มาร์เซล ชเมลเซอร์ โยนบอลมาเข้าหัว มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ โขกเผาขนติด เซบาสเตียน มีลิทซ์ นายทวารเบรเมน เซฟได้เยี่ยม

        นาที 60 มาร์โค รอยส์ ได้ซัลโวฟรีคิกระยะไกล บอลเหินข้ามคานไม่กี่หลา

        หกนาทีต่อมา ทีมเยือนแก้เกมส่ง นีล พีเตอร์เซ่น ลงเล่นแทน อเล็กซานเดอร์ อิงยอฟสกี้

        เบร เมนตีเสมอ 1-1 นาที 75 มาร์โก อาร์เนาโตวิช โยนบอลจากฝั่งขวาให้ ธีโอดอร์ กาเบร้ เซลาสซี่ แบ็กขวาโหม่งที่เสาแรก บอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงาม

        นาที 81 ดอร์ทมุนด์นำ 2-1 ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ ผ่านบอลให้ มาริโอ ก็อตเซ่ ตัวสำรองยิงที่เสาแรกเสียบมุมประตู เข้าไป จบเกม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ออกสตาร์ทนัดแรกบุนเดสลีกา ซีซั่นใหม่ ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 2-1

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ :
โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - โอลิเวอร์ เคิร์ช (อีวาน เพริซิช น.82), เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - อิลคาย กุนโดกาน (โมริตซ์ เล็ตเนอร์ น.71), เซบาสเตียน เคห์ล (กัปตันทีม) - ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้, มาร์โค รอยส์, เควิน โกรสครอยท์ซ (มาริโอ ก็อตเซ่ น.78) - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : มิตเชลล์ ลันเกรัค (ผู้รักษาประตู), เฟลิเป้ ซานตาน่า, คริส โลเว่, จูเลี่ยน ชีเบอร์
ใบเหลือง : อิลคาย กุนโดกาน น.21, เซบาสเตียน เคห์ล น.62


แวร์เดอร์ เบรเมน : เซบาสเตียน มีลิทซ์ - ธีโอดอร์ กาเบร้ เซลาสซี่, เซบาสเตียน เพรอเดิ้ล, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, อเล็กซานเดอร์ อิงยอฟสกี้ (นีล พีเตอร์เซ่น น.66) - เคลเมนส์ ฟริตซ์ (กัปตันทีม) - เควิน เดอ บรุนน์, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช, อารอน ฮันท์ (นิคลาส ฟูลล์ครุก น.87), เอลเยโร่ เอเลีย - มาร์โก อาร์เนาโตวิช
สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ราฟาเอล โวล์ฟ (ผู้รักษาประตู), อัสซานี่ ลูคิมยา-มูลงโกติ, ลูคัส ชมิตซ์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, เมห์เม็ต เอคิซี่
ใบเหลือง : อเล็กซานเดอร์ อิงยอฟสกี้ น.28, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช น.59

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซวาเยอร์ (เบอร์ลิน)

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match บาร์เซโลน่า 3-2 เรอัล มาดริด

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match บาร์เซโลน่า 3-2 เรอัล มาดริด

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match บาร์เซโลน่า 3-2 เรอัล มาดริด

ฟุตบอลสแปนิช ซูเปอร์ คัพ นัดแรก


บาร์เซโลน่า 3-2 เรอัล มาดริด

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2555

สนาม : คัมป์ นู




เริ่มเกม ทั้งสองทีมเล่นกันค่อนข้างรัดกุม โอกาสเข้าทำแทบไม่มี ถึงนาทีที่ 13 บาร์ซ่า ได้สร้างจังหวะหวาดเสียวเข้าทักทาย เปโดร โรดริเกซ เปิดบอลเรียดจากเขตโทษด้านซ้าย กะให้กับ อเล็กซิส ซานเชส ที่เสาสอง แต่เข้าไม่ถึง บอลเลยผ่านหน้าปากประตูไป
น.17 เคราร์ด ปิเก้ ดันเกมรุกขึ้นสูง ก่อนที่จะตัดสินใจยิงไกลกล่า 30 หลา บอลพุ่งเรียดหลุดกรอบออกไป
น.19 เริ่มต่อกันติดมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ บาร์ซ่า ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ ดาเนี่ยล อัลเวส ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนที่จะเปิดตัดเข้าในให้ เมสซี่ แต่งบอลหนึ่งจังหวะแล้วยิงด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
น.29 เกมของ บาร์ซ่า เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด มีโอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้ง เมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ ทำชิ่งต่อบอลให้ เมสซี่ ลากบอลหลบแนวรับ มาดริด ถึง 3 คน ก่อนที่จะได้ยิงด้วยซ้ายตรงเส้นเขตโทา แต่ยิงบดไปบอลไหลออกเสาสอง
น.40 หลังจากที่ผ่อนเกมรุกลงมาพักใหญ่ บาร์ซ่า บุกเข้าหาอีกครั้ง ก่อนที่ ชาบี เอร์นานเดซ จะได้ตั้งป้อมซัดไกลจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งโด่ง้ามคานออกไป
จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง หลังจากพักแก้เกม เริ่มมาถึงนาที 55 มาดริด ทีมเยือน ที่หาโอกาสยิงในครึ่งแรกแทบไม่ได้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เมซุต โอซิล เปิดเข้าไปจุดนัดพบ โรนัลโด้ โฉบขึ้นโหม่งตัดหน้าตัวประกบอย่าง เซร์คิโอ บุสเกตส์ เสียบมุมเข้าไป
น.56 ทีมเยือนดีใจได้แป๊ปเดียว เพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น บาร์ซ่า ก็มาทวงประตูคืนทันควัน จากจังหวะที่ มาสเคราโน่ เปิดบอลจากกลางสนามตัดหลังแนวรับ มาดริด ให้ เปโดร โรดริเกซ แตะบอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนแปสวนตัว กาซิยาส เข้าไปอย่างเฉียบขาด ให้ บาร์ซ่า ตีเสมอเป็น 1-1
น.61 มาดริด แก้เกมด้วยการส่ง กอนซาโล่ อิกวาอิน ลงมาล่าตาข่ายแทน คาริม เบนเซม่า ที่ไร้บทบาทในครึ่งหลัง ก่อนที่จะส่ง อังเคล ดิ มาเรีย ลงมาสมทบ แทนที่ โฆเซ่ กาเยฆ่อน ในนาที 66
น.70 แนวรุกของ บาร์ซ่า ยังสร้างความปั่นป่วนให้กับทีมเยือนได้เรื่อยๆ ก่อนที่ อันเดรียส อิเนียสต้า จะโดน เซร์คิโอ รามอส พุ่งเสียบคว่ำในเขตโทษ ผู้ตัดสินจ้องดูเหตุการณ์อยู่พักใหญ่ก่อนที่จะชี้เป็นจุดโทษ ลิโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือ ให้ บาร์ซ่า พลิกแซง 2-1
น.78 บาร์ซ่า มาสร้างความสุขให้แฟนบอลในคัมป์ นู ได้อีกครั้ง เมื่อมาได้ประตูพลิกนำไปเป็น 3-1 จากจังหวะที่ อิเนียสต้า กระชากบอลเข้าเขตโทษ หลบแนวรับทีมเยือนถึง 3 คน ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ ชาบี เอร์นานเดซ หลุดเดี่ยวเข้าไปแปผ่านมือ กาซิยาส เข้าไปง่ายๆ
น.85 จากรูปเกมที่ดูเป็นรองของ มาดริด แต่กลับมาได้ประตูไล่ทวงมาเป็น 2-3 จากจังหวะที่ อาเดรียโน่ จ่ายบอลคืนหลังให้ บิคตอร์ บัลเดส แล้วพยายามแต่งบอล ก่อนที่ อังเคล ดิ มาเรีย จะอาศัยความขยันไล่ไปแย่งบอลจากเท้า บัลเดส ได้ ก่อนจะยิงเข้าไปโล่งๆ
จบเกม บาร์ซ่า เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ มาดริด ไป 3-2 ต้องไปลุ้นต่อในนัดที่ 2 ที่ซานติอาร์โก้ เบร์นาเบว ในวันพุธที่ 29 ส.ค.นี้
รายชื่อผู้เล่น บาร์เซโลน่า
บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนี่ยล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อาเดรียโน่ - ชาบี เอร์นานเดซ (เชส ฟาเบรกาส น.83), เซร์คิโอ บุสเกตส์, อันเดรียส อิเนียสต้า - อเล็กซิส ซานเชส (คริสเตียน เตโญ่ น.72), ลิโอเนล เมสซี่, เปโดร โรดริเกซ (ฆอร์ดี้ อัลบา น.87)
สำรองไม่ได้ใช้
โชเซ่ ปินโต้ - การ์เลส ปูโยล, เซร์กี้ โรแบร์โต้, ดาบิด บีย่า
รายชื่อผู้เล่น เรอัล มาดริด
อิเกร์ กาซิยาส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ราอูล อัลบิโอล, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โคเอนเทรา (มาร์เซโล่ น.82) - ซามี่ เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - โฆเซ่ กาเยฆ่อน (อังเคล ดิ มาเรีย น.66), เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (กอนซาโล่ อิกวาอิน น.61)
สำรองไม่ได้ใช้
อันโตนิโอ อาดาน - ราฟาเอล วาราน, เอสเตบัน กราเนโร่, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า
ผู้ตัดสิน : การ์ลอส คลอส โกเมซ

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match อโตรมิตอส 1-1 นิวคาสเซิล

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match อโตรมิตอส 1-1 นิวคาสเซิล


ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match อโตรมิตอส 1-1 นิวคาสเซิล

"สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล บุกไปตามตีเสมอ อโตรมิตอส ตัวแทนจากกรีซมาได้แบบลุ้นเหนื่อย โดยได้ประตูตีเสมอจากลูกฟรีคิกสุดสวยของ ไรอัน เทย์เลอร์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก แต่ยังต้องไปตัดสินกันนัดสอง ขณะเดียวกัน "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ไล่อัด วาสลุย เจ้าถิ่นแบบสบายเกือก 2-0 โอกาสผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มสดใส ในศึกฟุตบอล ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค. ที่ผ่านมา


ฟุตบอล ยูโรปา ลีกรอบเพลย์ออฟ นัดแรก
วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2555
อโตรมิตอส (กรีซ) 1   -   1 นิวคาสเซิ่ล (อังกฤษ)
ผู้ทำประตู : 1-0 เดนิส เอปสไตน์ น.24, 1-1 ไรอัน เทย์เลอร์ น.45



สนาม : สตาดิโอ เปริสเตริอู

        "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมแกร่งจากอังกฤษบุกเยือนอโตรมิตอส ด้วยผู้เล่นชุดสำรองเป็นส่วนใหญ่ แต่กองหน้าใช้ ปาปิสส์ ซิสเซ่ ยืนค้ำโดยมี กาเบรียล โอแบร์กต็อง ปั้นเกมรุกอยู่ข้างหลัง ขณะที่เจ้าถิ่นใช้กองหน้า 3 รายคือ นิโกล่า เบลยิช, เอ็นจาซี่ คูกิ และ เดนิส เอปสไตน์ คอยป่วน

        เล่นไปได้ 9 นาที อโตรมิตอสลุ้นก่อนจากจังหวะที่ดิมูตซอสโยนจากขวามาให้ เอ็นจาซี่ คูกิ ซัดหลุดข้างเสา จากนั้นนาที 13 อิเกลเซียสส่องไกลระยะ 25 หลาข้ามคาน

        กระทั่ง นาที 24 อโตรมิตอสขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่เบลยิชผ่านบอลตัดหลังทาเวอร์เนียร์ กองหลังทีมเยือน เข้าทางเอปสไตน์ที่เติมขึ้นมา ซัดผ่านฮาร์เปอร์เข้าไป

        อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิ่ลตามตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเจ็บสำเร็จ เมื่อได้ฟรีคิกหลังกอสลิ่งโดนอิเกลเซียสทำฟาวล์ระยะ 25 หลา ไรอัน เทย์เลอร์ วิ่งมาตะบันเรียดส่งบอลเสียบมุมซ้ายมือตัวเองสุดสวย แม้ว่าอิต็องเช่พยายยามพุ่งสุดตัวก็ตาม ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

        กลับมาเล่นครึ่งหลังแค่ 2 นาที นิวคาสเซิ่ลได้ลุ้น ซิสเซ่โยนจากขวามาหน้าประตู มาร์กโวซ์ขวิดหลุดกรอบ จากนั้น นาที 58 เทย์เลอร์ไหลฟรีคิกให้โอแบร์กต็องตะบันฮาล์ฟวอลเล่ย์ บอลโด่งข้ามคาน

        สาลิกาเหนือกว่า นาที 68 โอแบร์กตองถอยลึกมาทางปีกขวา ก่อนเปิดเข้ากลาง อิต็องเช่อ่านเกมพลาด ไม่ออกมาตัด ซิสเซ่ที่อยู่เสาไกลได้โอกาสสับ แต่คราวนี้อิต็องเช่ขยับไปป้องกันได้ทัน จบเกม นิวคาสเซิ่ลบุกมาเสมออโตรมิตอส 1-1 ต้องไปตัดสินกันนัดสอง กลางสัปดาห์หน้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        อโตรมิตอส :
ชาร์ลส์ อิต็องเซ่ - จานนิส สคอนดราส, โซคราติส ฟิตานิดิส, นิคอส ลาซาริดิส, คอสตาส จานนูลิส (อาธานาซิออส คารากูนิส น.86) - เอลินี่ ดิมูตซอส, วอลเตอร์ อิเกลเซียส, เอดูอาร์โด้ บริโต้ - นิโกล่า เบลยิช (มารินาลโด้ ชุมบินโญ่ น.60), เอ็นจาซี่ คูกิ (อนาสตาซิออส คารามานอส น.60), เดนิส เอปสไตน์

        นิวคาสเซิ่ล
: สตีฟ ฮาร์เปอร์ - เจมส์ ทาเวอร์เนียร์, ไมค์ วิลเลียมสัน, เจมส์ เพิร์ช, ไรอัน เทย์เลอร์ - แดน กอสลิ่ง (โรเมน อมาลฟิตาโน่ น.64), กาเอล บิกิริมาน่า, วูร์นอน อนิต้า, ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ (โฮนาส กูเตียร์เรซ น.71), กาเบรียล โอแบร์กต็อง - ปาปิสส์ ซิสเซ่ (อดัม แคมป์เบลล์ น.77)

        ผู้ตัดสิน
: อาลอน เยเฟต (อิสราเอล)

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match ฮาร์ทส์ ออฟ มิดโลเธียน 0-1 ลิเวอร์พูล

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match ฮาร์ทส์ ออฟ มิดโลเธียน 0-1 ลิเวอร์พูล


ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match ฮาร์ทส์ ออฟ มิดโลเธียน 0-1 ลิเวอร์พูล

ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
รอบเพลย์-ออฟ นัดแรก


ฮาร์ทส์ 0 - 1 ลิเวอร์พูล

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2555
สนาม : ไทน์คาสเซิ่ล
ผู้ตัดสิน : ฟลอเรียน เมเยอร์ (เยอรมนี)





"หงส์เเดง"ลิเวอร์พูล ทีมเยือนเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเกมครึ่งเวลาเเรก โดยจะบุกจากซ้ายไปขวา

เริ่มเกมมาเเค่ 8 นาทีเเรก ลิเวอร์พูล ได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อน จากลูกยิงไกลของชาร์ลี อดัมเเต่แม็คโดนัลด์พุ่งปัดออกไปได้

นาทีที่ 12 อาร์วีดาส โนวิโควาสได้โอกาสยิงไกลด้วยซ้าย เเต่โฆเซ่ เรน่าปัดออกไปได้จากเส้นปากประตู

นาทีที่ 28 ราฮึม สเตอร์ลิ่งลากบอลตัดเเนวรับฮาร์ทส์เข้ามาด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงไกลด้วยขวาบอลโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 31 เจย์ สเปียริ่งจ่ายบอลทะลุช่องให้ฟาบิโอ บอรินี่หลุดเข้าไปยิง เเต่เเนวรับฮาร์ทส์ล้มตัวสกัดออกไปได้

ก่อน หมดเวลาครึ่งเวลาเเรก ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสที่จะทำประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ราฮึม สเตอร์ลิ่งฉกบอลจากการจ่ายของเมห์ดี้ ทาอุยล์ ก่อนจะกระชากบอล เเล้วไหลให้ฟาบิโอ บอรินี่ได้ยิงจ่อๆ เเต่บอลไปชนเสาออกไป จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0

นาทีที่ 55 เเนวรับลิเวอร์พูล สกัดบอลไม่ขาดทำให้บอลมาเข้าทางคัลลั่ม เพเทอร์สันได้โอกาสหลุดขึ้นมายิงทางด้านฝั่งขวา เเต่บอลหลุดเสาเเรกออกไป

นาที ที่ 58 ชาร์ลี อดัมลากบอลตัดเเนวรับฮาร์ทส์เข้ามาด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงด้วยขวาข้างไม่ถนัดจากเเถวสอง บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที ที่ 67 ราฮึม สเตอร์ลิ่งส่งบอลคืนหลังให้กับชาร์ลี อดัมได้ยิงจากเเถวสองบอลไปติดเเนวรับฮาร์ทส์ ก่อนแม็คโดนัลด์จะล้มตัวรับเอาไว้ได้

นาทีที่ 78 ลิเวอร์พูล บุกมานำ ฮาร์ทส์ 1:0 เมื่อมาร์ติน เคลลี่เปิดบอลด้านฝั่งขวา เข้ามาให้กับฟาบิโอ บอรินี่จิ้มบอลไปติดแอนดี้ เว็บสเตอร์ในจังหวะสุดท้ายเข้าประตูไป

นาที ที่ 88 เจมี่ คาร์ราเกอร์สกัดบอลไม่ขาด ไดรเวอร์ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาได้โอกาสยิงจากบริเวณเขตโทษเเต่โฆเซ่ เรน่าพุ่งรับเอาไว้ได้

นาทีที่ 89 ฮาร์ทส์ ได้โอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้งจากลูกตวัดยิงด้วยขวาของจอห์น ซัตตัน เเต่โฆเซ่ เรน่าพุ่งปัดบอลออกไปได้

จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ ฮาร์ทส์  ไปก่อน 1-0

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามทั้งสองทีม

ฮาร์ทส์ ระบบ 4-4-2 :  แม็คโดนัลด์ , คัลลั่ม เพเทอร์สัน,แอนดี้ เว็บสเตอร์,มาริอุส ซาริอูคาส,แดนนี่ เกรนเจอร์, ดีแลน แม็คโกแวน,ดาร์เรน บาร์,เมห์ดี้ ทาอุยล์,ปีเตอร์สัน, อาร์วีดาส โนวิโควาส,จอห์น ซัตตัน

ลิเวอร์พูล ระบบ 4-5-1 :  โฆเซ่ เรน่า, มาร์ติน เคลลี่,เจมี่ คาร์ราเกอร์,แดเนียล แอ็กเกอร์,โรบินสัน(สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง น.61) ,จอนโจ เชลวี่ย์,ชาร์ลี อดัม,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ราฮึม สเตอร์ลิ่ง,เจย์ สเปียริ่ง(โจ อัลเลน น.65) ,ฟาบิโอ บอรินี่(อดัม มอร์เเกน น.90+2)

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match เชลซี 4-2 เรดดิ้ง

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match เชลซี 4-2 เรดดิ้ง

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match เชลซี 4-2 เรดดิ้ง

ผลบอล"สิงห์บูลส์"เชลซี ออกเเรงเหนื่อยยิงช่วงท้ายเกมเเซง"เดอะ รอยัลส์"เร้ดดิ้ง ด้วยสกอร์ 4:2 ในเกมพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012/2013

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012/2013
วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555
เชลซี 4: 2 เร้ดดิ้ง
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน เวลา : 01.45 น.
"สิงห์บูลส์"เชลซี เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเกมในครึ่งเวลาเเรก โดยจะบุกจากขวาไปซ้าย
เริ่มเกมมาเเค่นาทีที่ 2 เชลซี ได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อน จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ฆวน มาต้าไหลบอล ให้เอดิน อาซาร์ดหลุดขึ้นมาด้านฝั่งซ้ายได้ยิงเเต่บอลหลุดเสาสองออกไป
นาทีที่ 6 บรานิสลาฟ อิวโนวิชจ่ายบอลให้กับรามิเรสหลุดขึ้นมาด้านฝั่งซ้าย เเต่จังหะสุดท้ายยิงไปติดเซฟอดัม เฟเดริซี่อย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 12 เฟอร์นานโด ตอร์เรสลากบอลผ่านเเนวรับเร้ดดิ้งถึง 2 ตำเเหน่ง เเต่จังหวะสุดท้ายคริส กันเทอร์สกัดบอลออกไปได้
นาทีที่ 18 เอดิน อาซาร์ดถูกคริส กันเทอร์สกัดล้มลงในกรอบเขตโทษ ลี เมสันผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที เเละจังหวะสุดท้ายแฟร้งค์ แลมพาร์ดรับหน้าที่สังหารเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูให้ เชลซี ขึ้นนำ เร้ดดิ้ง ก่อน 1:0
นาทีที่ 24 แกเร็ธ แม็คเคลียรี่เปิดบอลจากด้านฝั่งขวา เข้าไปให้กับพาเวล โพแกร็บเนี้ยคสอดเข้ามาโขกบอลผ่านมือปีเตอร์ เช็กเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูให้ เร้ดดิ้ง ตามตีเสมอ เชลซี 1:1
นาทีที่ 29 เร้ดดิ้ง ได้ประตูขึ้นนำ เชลซี 2:1 เมื่อแดนนี่ กัทธรียิงลูกฟรีคิกด้านฝั่งซ้าย ปีเตอร์ เช็กกะจังหวะผิดพลาดทำให้บอลปลิ้นเข้าประตูไป
นาทีที่ 35 ฆวน มาต้าเปิดลูกฟรีคิกด้านฝั่งซ้าย ให้จอห์น เทอร์รี่ได้โหม่งบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 39 จอน โอบี มิเกลตวัดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งซ้าย เข้ากลางมาให้กับเอดิน อาซาร์ดได้สัปไกลยิง เเต่บอลโด่งข้ามคานออกไป
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 2 เอดิน อาซาร์ดเปิดบอลจากด้านฝั่งขวา เข้ามาให้กับเฟอร์นานโด ตอร์เรสได้โขก เเต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
เร้ดดิ้ง ทีมเยือนเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง โดยจะบุกจากขวาไปซ้าย
นาทีที่ 47 เอดิน อาซาร์ดจ่ายบอลทะลุช่อง ให้เฟอร์นานโด ตอร์เรส หลุดขึ้นมาด้านฝั่งขวา ก่อนจะตวัดคืนหลังให้บรานิสลาฟ อิวโนวิชเติมขึ้นมายิง เเต่บอลเหินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 61 เอดิน อาซาร์ดจ่ายบอลจากด้านฝั่งซ้าย เข้ากลางมาให้กับออสการ์ได้โอกาสยิงจังหวะเเรก เเต่อดัม เฟเดริซี่พุ่งรับเอาไว้ได้
นาทีที่ 66 บรานิสลาฟ อิวโนวิชจ่ายบอลจากด้านฝั่งขวาเข้ามากลางประตู เเนวรับเร้ดดิ้งสกัดไม่ขาด ทำให้บอลมาเข้าทางเอดิน อาซาร์ดได้ยิงด้วยซ้าย เเต่อเล็กซ์ เพียร์ซพุ่งบล็อกเอาไว้ได้
นาทีที่ 69 เชลซี ได้ประตูตามตีเสมอ เร้ดดิ้ง เป็น 2:2 เมื่อแกรี่ เคฮิลล์ได้โอกาสยิงไกลจากเเถวสอง อดัม เฟเดริซี่ทุบบอลไม่ออก ทำให้บอลกลิ้งเข้าประตูไป
นาทีที่ 79 บรานิสลาฟ อิวโนวิชเปิดบอลติดเเนวรับเร้ดดิ้งด้านฝั่งขวา ก่อนบอลจะมาเข้าทางฆวน มาต้าได้ยิงด้วยเท้าขวาบอลหลุดเสาสองออกไป
นาทีที่ 82 ฆวน มาต้าไหลบอลไปให้แอชลี่ย์ โคลเติมเกมรุกขึ้นมาด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเข้ากลางให้เฟอร์นานโด ตอร์เรสบรรจงเเปโล่งๆเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูให้ เชลซี พลิกขึ้นนำ 3:2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 5 จากจังหวะที่เร้ดดิ้ง ได้ลูกเตะมุม อดัม เฟเดริซี่ นายทวารฝั่งทีมเยือนดันขึ้นมาสูง เฟอร์นานโด ตอร์เรสสกัดบอลได้ เเล้วไหลบอลให้เอดิน อาซาร์ดกระชากบอลกว่าครึ่งสนามขึ้นมาด้านฝั่งขวา ก่อนจะจ่ายให้บรานิสลาฟ อิวโนวิชเเปบอลโล่งๆเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูปิดท้ายให้ เชลซี เอาชนะ เร้ดดิ้ง ด้วยสกอร์ 4:2
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เชลซี ระบบ 4-2-3-1 :
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวโนวิช,แกรี่ เคฮิลล์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลี่ย์ โคล
กองก ลาง : แฟร้งค์ แลมพาร์ด,จอน โอบี มิเกล(ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.68) - รามิเรส(ออสการ์ น.57),ฆวน มาต้า( ราอูล เมยเรเลส น.83),เอดิน อาซาร์ด
กองหน้า : เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เร้ดดิ้ง ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : อดัม เฟเดริซี่
กองหลัง : คริส กันเทอร์,อเล็กซ์ เพียร์ซ,คาสปาร์ส กอร์คส์(เลอ ฟอนเดร น.71), ,เอียน ฮาร์ท
กองกลาง : โจบี้ แม็คอนัฟฟ์,มิเคเล่ ไลเกิร์ตวู้ด,แดนนี่ กัทธรี,แดนนี่ กูแธร์
กองหน้า : พาเวล โพแกร็บเนี้ยค(ฮันท์ น.78) ,แกเร็ธ แม็คเคลียรี่(ร็อบสัน-คานู น.86,)

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match วีแกน 0-2 เชลซี

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match วีแกน 0-2 เชลซี


ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match วีแกน 0-2 เชลซี

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วีแกน 0 - 2 เชลซี


วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555
สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์



การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ประจำวันอาทิตย์ ที่ 19 สิงหาคม 2555 "เดอะ ลาติกส์" วีแกน แอธเลติก เปิด ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี โดยเกมนี้เป็นเกมนัดเปิดสนามของทั้ง 2 ทีมด้วย

เริ่มเกมเป็นทาง วีแกน ได้เขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน บุกจากขวาไปซ้าย เเละเกมเริ่มไปได้เเค่ 2 นาที เป็นทางฝั่งทีมเยือน "สิงห์บลูส์" มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากการเล่นเกมสวนกลับ
ก่อนที่จังหวะสุดท้าย เอแดน อาซาร์ จะจ่ายให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงบอลยัดเสาแรกผ่านตัว อาลี อัล ฮับซี่ ผู้รักษาประตูของ วีแกน เข้าไปอย่างสวยงาม ให้ เชลซี บุกมานำ 1-0

น.7 เชลซี มาได้ลูกที่ 2 ทันควัน เมื่อ อิบัน รามิส ไปสกัด เอแดน อาซาร์ ล้มลงในเขตโทษ ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที เเละ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ให้ทีมเยือนนำห่างเป็น 2-0

น.19 วีแกน เกือบได้ประตูตีไข่แตก เมื่อ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ พาบอลขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดเข้าไปในเขตโทษบอลเลยมาที่เสาสอง ฟรังโก้ ดิ ซานโต ขึ้นโขกเต็มหัว เเต่บอลโด่งข้ามคานออกไป

เกมผ่านมา ครึ่งชั่วโมง หลังได้ประตูนำสองลูก เชลซี ดูผ่อนเกมรุกลงไป ทำให้ วีแกน เปิดเกมบุกได้มากขึ้น แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความเฉียบขาด สำหรับทีมเจ้าบ้าน

น.38 วีแกน มาได้โอกาสลุ้นจาก วิคเตอร์ โมเซส พาบอลขึ้นมาทางฝั่งขวาถึงกรอบเขตโทษ ก่อนซัดเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบ เเต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังไวปัดทิ้งออกหลังไป

น.43 เจ้าบ้าน "เดอะ ลาติกส์" ได้เสียวอีกครั้ง เมื่อ วิคเตอร์ โมเซส พาบอลตะลุยขึ้นมาทางขวา ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตูบอลพุ่งแรงแบบได้ลุ้น แต่เพื่อนร่วมทีมไม่มีใครวิ่งเข้ามาชาร์ตบอลได้ทัน ทำให้บอลออกข้างไป

ช่วง ทดเจ็บของครึ่งแรก วีแกน พลาดโอกาสได้ประตูอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อ ฟรังโก้ ดิ ซานโต ได้บอลหลุดเดี่ยวไปดวลกับ ปีเตอร์ เช็ก ในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ก่อน ดาวิด ลุยซ์ จะเคลียร์ทิ้งไปได้

ก่อนหมดเวลา วีแกน ได้ฟรีคิก แต่ ฌอน มาโลนี่ย์ ก็ยิงไปเข้ามือ  ปีเตอร์ เช็ก อีก หมดครึ่งแรก เชลซี บุกนำ วีแกน อยู่ 2-0

เริ่ม เกมในครึ่งหลังมาในนาทีที่ 53 เชลซี เกือบได้ลูกที่สาม จากจังหวะที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เปิดบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปติดเเนวรับ วีเเกน ก่อนบอลมาเข้าทาง แอชลี่ย์ โคล ได้ยิงโล่งๆ จากเเถวสอง เเต่บอลหลุดออกนอกกรอบไป

น.60 วีแกน ได้ลุ้นบ้างเมื่อ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ วางบอลยาวมาจากกลางสนามไปให้ ฟรังโก้ ดิ ซานโต ที่อยู่ทางซ้ายของกรอบเขตโทษเอาบอลลงแล้วซัดด้วยซ้าย เเต่ไม่เข้ากรอบ

น.63 เชลซี พลาดได้ลูกที่สามอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดเข้าไปดีดบอลผ่าน อาลี อัล ฮับซี่ ไปแล้ว แต่ก่อนบอลจะผ่านข้ามเส้นประตู อิบัน รามิส วิ่งมาสกัดทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด

น.68 "สิงห์บลูส์" ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส โหม่งชงให้กับ ออสการ์ ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงสนามมา โชว์ความเร็วกระชากบอลขึ้นไปด้านขวา ก่อนจะยิงบอลพุ่งเรียดเฉียดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

น.74 วีแกน มาได้โอกาสบ้างจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ฆอร์ดี้ โกเมซ รับอาสายิงบอลโค้งข้ามกำแพง เเต่ยังไปเข้ามือ ปีเตอร์ เช็ก รับเข้าซอง

น.85 วีแกน พลาดการได้ประตูตีไข่แตกไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ วิคเตอร์ โมเซส พาบอลลากเลื้อยขึ้นมาจนถึงเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายยัดเข้ากลางให้ อารูน่า โคเน่ ชาร์ตเผาขนที่เสาแรก บอลไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก ปัดทิ้งไปเข้าทาง ฆอร์ดี้ โกเมซ กระโดดยิงจักรยานอากาศหน้าปากประตู เเต่บอลหลุดเสาออกหลังไป

หลัง จากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรกันได้เพิ่มเติม จบเกม เชลซี ประเดิมสนาม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2012-2013 ด้วยการเก็บ 3 แต้มเต็ม จากการบุกไปเอาชนะ วีแกน 2-0

รายชื่อนักเตะของทั้ง 2 ทีม
วีแกน : อาลี อัล ฮับซี่ (ผู้รักษาประตู) - เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, อันโตลิน อัลการาซ, แกรี่ คัลด์เวลล์, อิบัน รามิส - เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (เบน วัตสัน น.80) - วิคเตอร์ โมเซส, ฌอน มาโลนี่ย์ (ฆอร์ดี้ โกเมซ น.48), มายนอร์ ฟิเกรัว - ฟรังโก้ ดิ ซานโต (อารูน่า โคเน่ น.67)

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก (ผู้รักษาประตู) - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ไรอัน เบอร์ทรานด์, ฆวน มาต้า (ราอูล เมยเรเลส น.82), เอแดน อาซาร์ (ออสการ์ น.64) - เฟร์นานโด ตอร์เรส
ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match แมนซิตี้ 3-2 เซาแธมป์ตัน

ไฮไลท์ฟุตบอล Full Match แมนซิตี้ 3-2 เซาแธมป์ตัน


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมนฯซิตี้ 3 - 2 เซาธ์แฮมป์ตัน


วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555
สนาม : เอติฮัต สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์


การเเข่งขันศึกฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012/2013 ประจำวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2555 ที่สนามเอติฮัต สเตเดี้ยม เจ้าบ้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าจากฤดูกาลที่แล้ว ต้อนรับการมาเยือนของ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมน้องใหม่จากเดอะ แชมเปี้ยนส์ ชิพ

เริ่ม เกมมาได้เพียง 8 นาที เจ้าถิ่นต้องเสีย เซร์จิโอ อเกวโร่ ที่ได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวาจากจังหวะที่โดน นาธาเนียล ไคล์น แบ็กขวาทีมเยือนสกัด เจ้าตัวล้มผิดจังหวะจนเข่ารับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้ต้องไปปฐมพยาบาลข้างสนาม แต่สุดท้ายเล่นต่อไม่ไหวต้องขึ้นเปลออกจากสนาม ทำให้ทีมต้องส่ง เอดิน เชโก้ ลงสนามไปทำประตูแทน

น.17 "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสออกนำแบบน่าเสียดาย หลังได้จุดโทษจากการที่ คาร์ลอส เตเวซ ถูก ยอส ฮุยเฟลด์ ดึงล้มลงในจังหวะจะพลิกตัวหนี โดยเป็น ดาบิด ซิลบา รับหน้าที่ซัดไปทางขวา แต่ไปถูก เคลวิน เดวิส นายทวารทีมเยือนเซฟไว้ได้ เจ้าถิ่นอดขึ้นนำก่อน

น.40 ในที่สุดแฟนเจ้าถิ่นก็ได้เฮเสียที เมื่อ ซามีร์ นาสรี่ ชิพบอลข้ามไปให้ เตเวซ ที่ยืนก้ำกึ่งแนวรับทีมเยือนหลุดเข้าเขตโทษไปทางเสาแรก ก่อนเจ้าตัวจะแปบอลเข้าประตูไปให้ทีมขึ้นนำสำเร็จ 1-0

ช่วงท้ายครึ่งแรกทดเจ็บ 4 นาที ซิตี้ มีลุ้นได้ประตูที่สองหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังพลาดไปหมด หมดเวลาสกอร์ยังอยู่ที่ 1-0

มา เตะกันต่อในครึ่งหลังได้ 4 นาที เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่สองเมื่อ นาสรี่ เลี้ยงบอลมาจากเส้นหลัง ก่อนจะส่งบอลไปหน้าประตู บอลไปถึง เชโก้ เข้าชาร์จแต่ก็ไปเข้ามือ เคลวิน เดวิส อีกครั้ง อีกสองนาทีต่อมาทีมยังชวดได้ประตูอีก คราวนี้ ยาย่า ตูเร่ ส่งบอลไปทางเสาสองให้ กาแอล กลิชี่ เข้าชาร์จจ่อๆ แต่ก็เหินข้ามคานไปแบบไม่น่าเชื่อ

น.54 "เรือใบสีฟ้า" ยังไม่ได้ประตูต่อไป หนนี้ นาสรี่ ส่งบอลไปให้ ซิลบา ได้จังหวะซัดวอลเล่ย์ด้วยซ้ายโล่งๆ แต่บอลก็พุ่งไปชนคานกระดอนออกหลังไป เจ้าถิ่นยังบวกสกอร์เพิ่มไม่ได้

เซาธ์แฮมป์ตัน ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เซาธ์แฮมป์ตัน ริคกี้ แลมเบิร์ต ลงไปแทน เจย์ โรดริเกซ

น.59 หลังจากโดนบุกอยู่นานในที่สุด เซาธ์แฮมป์ตัน ก็มาได้ประตูคืนบ้าง จากจังหวะที่บอลขลุกขลิกในเขตโทษ และเป็น ริคกี้ แลมเบิร์ต ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมาอาศัยจังหวะได้ซัดด้วยขวาบอลเลี้ยวผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ตีเสมอให้ทีมเป็น 1-1

จากนั้นก็ใบเหลืองแรก ของเกม โดยเป็น แดเนี่ยล ฟ็อกซ์ ของทีมเยือนรับไปเป็นคนแรก และต่อมาทีมก็เปลี่ยนตัวคนที่สองถอด เจมี่ วอร์ด-เพราส์ ออกส่ง สตีเว่น เดวิส ลงสนาม

น.67 แล้วกลายเป็นแฟนเจ้าถิ่นต้องช็อกทั้งสนาม เมื่อ แจ๊ค ร็อดเวลล์ พลาดโดนแย่งบอลจากหน้าประตูทีมเยือน ก่อนที่ทีมจะเล่นสวนกลับเร็วเข้าแดนของซิตี้ และเป็น สตีเว่น เดวิส ที่เพิ่งลงสนามได้ไม่นาน ซัดบอลลอดขา กลิชี่ ผ่านมือ ฮาร์ท เข้าประตูไป "นักบุญ" พลิกนำ 2-1

เจ้าถิ่นทนไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอา มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงสนาม โดยคนที่โดนถอดเป็น ซิลบา ที่เกมนี้พลาดโอกาสทำประตูไปหลายจังหวะ

น.72 "เรือใบสีฟ้า" ไม่ยอมแพ้มาตามตีเสมอได้สำเร็จ เมื่อ แว็งซองต์ ก็องปานี ได้ซัดด้วยซ้ายบอลไปติด บาโลเตลลี่ กระดอนออกไปทางซ้ายเข้าทาง เชโก้ ที่ยืนว่างอยู่วิ่งมาซัดด้วยขวาเข้าประตู สกอร์เท่ากัน 2-2

พอตีเสมอ ได้เหมือนได้ใจ "ซิตี้" เกือบกลับมานำอีกครั้งจากจังหวะที่ ยาย่า วิ่งลุยมาจากกลางสนามก่อนจะไหลให้ นาสรี่ ที่เติมมาทางขวาในเขตโทษโยนบอลไปทางเสาสอง แต่ บาโลเตลลี่ กลับซัดเข้าข้างตาข่ายแบบไม่น่าเชื่อ

น.80 แล้วในที่สุดแฟนซิตี้ก็ได้เฮกันทั้งสนาม เมื่อ กลิชี่ วิ่งเติมเกมมาจากทางซ้ายก่อนจะโยนบอลไปหน้าประตูไปถูกกองหลังเซาธ์แฮมป์ตัน โหม่งสกัดมาเข้าทาง นาสรี่ ที่ยืนตรงกลางประตูโล่งๆ วอลเล่ยด้วยขวาบอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม "เรือใบสีฟ้า" แซงนำ 3-2 ซึ่งหลังจากนั้น นาสรี่ ก็มาโดนใบเหลืองหลังไปถอดเสื้อในจังหวะดีใจหลังทำประตูได้

ขณะที่ ทีมเยือนเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง บิลลี่ ชาร์ป ลงไปแทน เจสัน พันเชี่ยน ส่วนเจ้าถิ่นก็เปลี่ยนเช่นกันถอด เตเวซ ออกส่ง อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ลงไปเล่นแทน

ช่วงทดเจ็บท้ายเกมไม่มีจังหวะอะไรให้ลุ้นเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายพลิกเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปได้สุดมันส์ 3-2 เก็บ 3 คะแนน ประเดิมฤดูกาลใหม่ไปได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : โจ ฮาร์ท - พาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซองต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - ซามีร์ นาสรี่, แจ๊ค ร็อดเวลล์, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา (มาริโอ บาโลเตลลี่ น.71) - คาร์ลอส เตเวซ (อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ น.87), เซร์จิโอ อเกวโร่ (เอดิน เชโก้ น.14)

เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) :
เคลวิ น เดวิส - นาธาเนียล ไคล์น, โชเซ่ ฟอนเต้, ยอส ฮุยเฟลด์, แดเนี่ยล ฟ็อกซ์ - เจมี่ วอร์ด-เพราส์ (สตีเว่น เดวิส น.65), มอร์ก็อง ชนีแดร์แล็ง, อดัม ลัลลาน่า, เจสัน พันเชี่ยน (บิลลี่ ชาร์ป น.85) - เจย์ โรดริเกซ (ริคกี้ แลมเบิร์ต น.55), กูลี่ โด ปราโด้